ไทเกอร์ วู้ดส์ ก้มรับ ตนไม่มีวันกลับไปลงเล่นอย่างสม่ำเสมอราวกับนักเล่นกอล์ฟอาชีพโดยมากได้แล้ว แล้วก็อาจจำเป็นต้องเลือกลงแข่งขันเพียงแค่บางรายการ ภายหลังเจ้าตัวเคยเผชิญอุบัติเหตุทางรถยนต์อย่างหนัก
ไทเกอร์ วู้ดส์ เผยออกมาว่าตนคงไม่สามารถที่จะกลับมาตีกอล์ฟทุกรายการ หรือเกือบจะครบทุกรายการราวกับอย่างนักเล่นกอล์ฟอาชีพได้อีกแล้ว แม้กระนั้นก็ยังคิดที่จะลงเล่นเป็นครั้งเป็นคราวอยู่
เมื่อตอนก.พ.ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา ไทเกอร์ ควบคุมรถยนต์ไม่อยู่ในระหว่างที่เขาขับขี่รถแถว ลอส แองเจลิส กระทั่งทำให้รถยนต์เสียหลักและก็เกลือกหลายตลบก่อนที่จะไปตกอยู่ที่ริมทางในภาวะที่เยิน ซึ่งมันทำให้เจ้าตัวได้รับบาดเจ็บอย่างหนักจนถึงจะต้องมีการผ่าตัดตรงขาขวา แล้วแล้วก็มาได้รับบาดเจ็บตรงเท้ากับข้อเท้าเพิ่มเติม โดยเขาถึงขนาดเคยกลัวว่าบางทีอาจจะต้องผ่าขาทิ้งด้วย ก่อนจะพ้นตอนที่ยากลำเค็ญมาได้
ดังนี้ เมื่อราว 1 อาทิตย์ก่อน ไทเกอร์ โพสต์คลิปที่เขาหวดลูกกอล์ฟลงบน ทวิตเตอร์ โซเชียลมีเดียออนไลน์มีชื่อเสียง จนกระทั่งทำให้ผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อยมั่นใจว่าเขาใกล้ที่จะกลับมาลงแข่งขันแบบสุดกำลังได้อีกที ดังเมื่อหลายปีที่ผ่านมาก่อนหน้านี้ที่เขาเคยมีลักษณะอาการเจ็บเรื้อรังตรงแผ่นข้างหลังจนถึงจะต้องพักรักษาตัวไปนาน ก่อนจะกลับมาแข่งขันระดับอาชีพแบบเต็มกำลังได้ แม้กระนั้นปัจจุบันก้านเหล็กวัย 45 ปี เห็นด้วยว่าคราวนี้ตนคงจะทำอย่างงั้นมิได้แล้ว
ไทเกอร์ เปิดเผยว่า “ผมยังสามารถมีชีวิตที่สุดยอดได้ถึงแม้ว่าจะจะไม่ต้องลงแข่งขันกับบรรดานักเล่นกอล์ฟที่เก่งที่สุดในโลก ผมเคยจะต้องต่อสู้อย่างมากกระทั่งอย่างกับการปีนเทือกเขาเอเวอเรสต์ภายหลังที่เข้ารับการผ่าตัดตรงข้างหลัง ซึ่งขณะนั้นผมทำเป็นเสร็จ แต่ว่าคราวนี้ผมไม่คิดว่าผมมีสภาพร่างกายที่ดีพอเพียงในการตะกายเทือกเขาเอเวอเรสต์แล้วล่ะ แม้กระนั้นมันก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญโตอะไรน่ะนะ ผมยังสามารถลงตีกอล์ฟได้อยู่ ผมยังทำแบบงั้นได้ถ้าเกิดขาของผมมันโอเค ผมสามารถลงเล่นบางรายการได้ แต่ว่าผมไม่คิดว่าจะสามารถไต่เขาที่ว่าแล้วขึ้นเขายอดดอยราวกับครั้งกระโน้นได้”
“ผมมีความคิดว่าความจริงที่พอเพียงจะเป็นได้ก็คือการลงเล่นในบางรายการ มิได้ถึงขนาดลงเล่นแบบฟูลไทม์ มันบางทีก็อาจจะควรต้องเลือกว่าน่าจะลงเล่นรายการไหนดี เสมือนที่ มิสเตอร์ (เบน) โฮแกน เคยทำ ผมอาจจำเป็นต้องเลือกว่าจะลงเล่นแค่เพียงบางรายการในแต่ละปี แล้วพอหลังจากนั้นก็ค่อยมองกันไปอีกครั้งว่าเพียงพอถึงในขณะนั้นๆแล้วจะเป็นอย่างไร”